5. โผฏฐัพพายตนะ อายตนะ คือ โผฏฐัพพะ [306] วิญญาณกาย คือ การประชุมวิญญาณ 61. จักขุวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางตา 2. โสตวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางหู 3. ฆานวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางจมูก 4. ชิวหาวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางลิ้น 5. กายวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางกาย 6. มโนวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางใจ. [307] ผัสสกาย การประชุมผัสสะ 61. จักขุสัมผัสส์ ความถูกต้องอาศัยตา ฯลฯ 6. มโนสัมผัสส์ ความถูกต้องอาศัยใจ. [308] เวทนากาย การประชุมเวทนา 61. จักขุสัมผัสสขาเวทนา เวทนาที่เกิดแต่ความถูกต้องอาศัยตา ฯลฯ 6. มโนสัมผัสสชาเวทนา เวทนาที่เกิดแต่ความถูกต้องอาศัยใจ. [309] สัญญากาย การประชุมสัญญา 61. รูปสัญญา สัญญาที่มีรูปเป็นอารมณ์ ฯลฯ 6. ธัมมสัญญา สัญญาที่มีธรรมเป็นอารมณ์. [310] สัญเจตนากาย การประชุมแห่งสัญเจตนา 61. รูปสัญเจตนา ความจงใจที่มีรูปเป็นอารมณ์ ฯลฯ 6. ธัมม- สัญเจตนา ความจงใจที่มีธรรมเป็นอารมณ์. [311] ตัณหากาย การประชุมตัณหา 61. รูปตัณหา ตัณหาเกิดขึ้นเพราะมีรูปเป็นอารมณ์ 2. สัททตัณหา ตัณหาเกิดขึ้นเพราะมีเสียงเป็นอารมณ์ 3. คันธตัณหา ตัณหาเกิดขึ้นเพราะมีกลิ่นเป็นอารมณ์ 4. รสตัณหา ตัณหาเกิดขึ้นเพราะมีรสเป็นอารมณ์ 5. โผฏฐัพพตัณหา ตัณหาเกิดขึ้นเพราะมีโผฏฐัพพะเป็นอารมณ์ 6. ธัมมตัณหา ตัณหาเกิดขึ้นเพราะมีธรรมเป็นอารมณ์. [312] อคารวะ ความไม่เคารพ 61. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ไม่ เคารพ ไม่ยำเกรงในพระศาสดาอยู่ 2. เป็นผู้ไม่เคารพ ไม่ยำเกรงในพระธรรมอยู่ 3. เป็นผู้ไม่เคารพ ไม่ยำเกรงในพระสงฆ์อยู่ 4. เป็นผู้ไม่เคารพ ไม่ยำเกรงในสิกขาอยู่ 5. เป็นผู้ไม่เคารพ ไม่ยำเกรงในความไม่ประมาทอยู่ 6. เป็นผู้ไม่เคารพ ไม่ยำเกรงในปฏิสันถารอยู่. [313] สคารวะ ความเคารพ 61. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้เคารพ ยำเกรงในพระศาสดาอยู่ 2. เป็นผู้เคารพยำเกรงในพระธรรมอยู่ 3. เป็นผู้เคารพยำเกรงในพระสงฆ์อยู่ |